โปรแกรมแสดงผลการแปลงปีศักราชต่างๆ
สำหรับในบทความนี้จะเป็นการกล่าวถึงโปรแกรม eclipse ที่จะนำมาเขียนโค้ดให้โปรแกรมสามารถอ่านได้แล้วแสดงผลจากการอ่านออกมา ซึ่งเราต้องรู้จักก่อนว่า eclipse คืออะไร
Eclipse คือ โปรแกรม IDE ที่ใช้สำหรับช่วยนักพัฒนาโปรแกรมให้สามารถทำอะไรได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นซึ่ง ณ ปัจจุปัน โปรแกรม Eclipse นี้รองรับภาษา Java, php, C/C++, JavaScript และยังสามารถลง plugin เพิ่มเติม เช่น Google plugin for Eclipse และอื่นๆ อีกมากมายซึ่งจะช่วยให้เราสามารถทำอะไรได้ง่ายขึ้นและรวดเร็วมากขึ้น ดังรูป
หน้าตาตอนเปิดโปรแกรม
หลังจากแนะนำโปรแกรมที่ใช้กันไปแล้วต่อจากนี้เราจะมาเริ่มการเขียนโปรแกรมคำนวณการแปลงศักราชกันเลยดีกว่าครับ แต่ก่อนเราจะเขียนโปรแกรมเราก็ต้องรู้จักก่อนว่าศักราชนั้นนั้นคืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร และสามารถแบ่งได้จากอะไรบ้าง ดังนั้นแล้วเรามาดูข้อมูลพอสังเขปกันเลยครับ
ศักราช (era) :
ช่วงเวลาที่จัดตั้งขึ้นตามการอ้างอิงของช่วงเวลานั้น
โดยแบ่งได้ตามการอ้างอิงหรือการเรียก เช่น
พุทธศักราช (พ.ศ.) :
เริ่มนับเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน เมื่อวันเพ็ญ เดือน 6
ปีจอ
คริสต์ศักราช (ค.ศ.) :
เริ่มนับตั้งแต่ พ.ศ. 543 โดยนับปีที่พระเยซูคริสต์ประสูติ เป็น
ค.ศ. 1
มหาศักราช (ม.ศ.) :
เริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 621 พระเจ้ากนิษกะของอินเดียทรงตั้งขึ้น
ฮิจญ์เราะหฺศักราช (ฮ.ศ.) :
เริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 1165 เมื่อปีที่ท่านนบีมุฮัมมัดอพยพจากเมืองเมกกะ
(มักกะหฺ) ไปยัง
เมืองเมดีนา(มะดีนะหฺ)
จุลศักราช (จ.ศ.) :
เริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 1181 ปี โดยนับเอาวันที่พระพม่า นามว่า
"บุพโสระหัน" สึกออกมา
เพื่อชิงราชบัลลังก์
รัตนโกสินทรศก (ร.ศ.) :
เริ่มใช้ในรัชกาลที่ 5 โดย "เริ่มนับ" ตั้งแต่ พ.ศ. 2325
อันเป็นปีที่พระบาทสมเด็จ
พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงสร้างกรุงเทพมหานคร
(เลิกใช้ในรัชสมัยพระบาท
สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว)
ศักราชจุฬามณี (ศักราชกฎหมาย)
*** ศักราชทุกชนิดไม่มีศักราช 0 เช่น
ก่อนค.ศ. 1 คือ 1 ปีก่อนคริสตกาลเป็นวิธีนับแบบปูรณสังขยา
ยกเว้น พุทธศักราชที่นับอย่างไทย เป็นการนับแบบปกติสังขยา เป็นต้น
พอเรารู้ข้อมูลปีศักราชพอสังเขปแล้วก็ถึงช่วงที่เรามาเริ่มการคำนาณแปลงศักราชโดยใช้โปรแกรม eclipse กันดีกว่าครับ มาดูกันเลยครับว่าหน้าตาโปรแกรมจะเป็นยังไง
ตัวอย่างโปรแกรม
import
java.io.BufferedReader;
import java.io.IOException;
import
java.io.InputStreamReader;
public class ChangeYears{
public static void main(String[] args)
{
String x = "";
BufferedReader
br = new BufferedReader(new
InputStreamReader(System.in));
System.out.println("Welcome");
System.out.println("Please Enter
Buddist Era");
int year ;
int b = 0;
int c = 0;
int d = 0;
int d = 0;
try{
x
= br.readLine();
}
catch (IOException e){
System.out.println("Error!"); }
year=
Integer.parseInt(x);
b=year-543;
c=year-1181;
d=year-2325;
d=year-2325;
System.out.println(" A.D. is "+b);
System.out.println(" Minor Era
is "+c);
}
}
โปรแกรมจะแสดงผลออกมาเป็น :
Welcome
Please Enter Buddist Era
2550
A.D. is 2007
Minor Era is 1369
Rattanakosin Era. is 225
เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าแต่ละส่วนคืออะไร
1. import java.io.BufferedReader;
import java.io.IOException;
import java.io.InputStreamReader;
คือ import จะเป็นการบอกว่าเราจะนำเอาโปรแกรมอะไรมาใช้
2. public class ChangeYears
คือ การประกาศชื่อคลาสของเรา ซึ่งในที่นี้ชื่อคลาสคือ ChangeYears
*** ในแต่ละโปรแกรมจะต้องมี public class 1 คลาส
3. BufferedReader br = new BufferedReader(new InputStreamReader(System.in));
ในส่วนนี้จะเป็นการเก็บข้อมูลสำหรับรับค่าที่จะแสดงผ่านคีย์บอร์ด
4. System.out.println("Welcome");
System.out.println("Please Enter Buddist Era");
ในส่วนนี้จะเป็นการแสดงข้อมูลในตัวแปร new ในข้อที่ 3
5. int year ;
int b = 0;
int c = 0;
ในส่วนนี้ของโปรแกรมจะมีการประกาศตัวแปรชื่อ year , b , c โดยกำหนดให้เป็นตัวแปรที่เก็บ
ข้อมูลชนิดจำนวนเต็ม(Integer) ซึ่งใช้ตัวย่อว่า int ที่สามารถเป็นจำนวนเต็มบวกและจำนวนเต็มลบได้
นอกจากนี้ยังมีการกำหนดค่าเริ่มต้นให้กับตัวแปร b , c ให้มีค่าเท่ากับ 0
ข้อมูลชนิดจำนวนเต็ม(Integer) ซึ่งใช้ตัวย่อว่า int ที่สามารถเป็นจำนวนเต็มบวกและจำนวนเต็มลบได้
นอกจากนี้ยังมีการกำหนดค่าเริ่มต้นให้กับตัวแปร b , c ให้มีค่าเท่ากับ 0
6. try{x = br.readLine();}
คือ คำสั่งเพื่อระบุบล็อกของชุดคำสั่งโปรแกรมหลักภายใน ที่สามารถเลี่ยงและทิ้งความผิดพลาดของชุด
คำสั่งโปรแกรมนั้นได้
คำสั่งโปรแกรมนั้นได้
7. catch (IOException e){
System.out.println("Error!"); }
คือ คำสั่งที่จะใช้ร่วมกับ try{x = br.readLine();} เพื่อระบุบล็อกของชุดคำสั่งโปรแกรมสำรอง
ที่จะสามารถจัดการกับเหตการณ์ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากบล็อกของชุคำสั่งโปรแกรมหลัก ( try{x = br.readLine();} )
ที่จะสามารถจัดการกับเหตการณ์ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากบล็อกของชุคำสั่งโปรแกรมหลัก ( try{x = br.readLine();} )
8. year= Integer.parseInt(x);
b=year-543;
c=year-1181;
คือ การแปลงค่าของ x ไปสู่การประการตัวแปรชื่อ year ที่เป็นชนิดของข้อมูล (int)
ส่วนตัวแปร b , c จะเป็นการบอกค่าว่าตัวแปร b , c นั้นมีค่าเท่าไหร่จากการคำนวณ
9. System.out.println("A.D. is "+b);
System.out.println("Minor Era is "+c);
เป็นการแสดงค่าของศักราชต่างๆออกมาทางหน้าจอ
10. Welcome
Please Enter Buddist Era
2550
A.D. is 2007
Minor Era is 1369
ในส่วนนี้จะเป็นการแสดงผลโดยการที่เรา Run โปรแกรมนี้ขึ้นมาในตอนแรกจะมีคำว่า Welcome กับ
Please Enter Buddist Era แล้วจะมีที่ว่างให้เรากรอกปีที่เราอยากรู้ลงในตัวอย่างนี้คือ 2550
แล้วก็กด Enter เราก็จะได้A.D. is 2007 กับ Minor Era is 1369 ซึ่งจะเป็นการบอกว่า
คริสต์ศักราช 2007 จะตรงกับพุทธศักราช 2550 และจุลศักราช 1369 จะตรงกับพุทธศักราช 2550
Please Enter Buddist Era แล้วจะมีที่ว่างให้เรากรอกปีที่เราอยากรู้ลงในตัวอย่างนี้คือ 2550
แล้วก็กด Enter เราก็จะได้A.D. is 2007 กับ Minor Era is 1369 ซึ่งจะเป็นการบอกว่า
คริสต์ศักราช 2007 จะตรงกับพุทธศักราช 2550 และจุลศักราช 1369 จะตรงกับพุทธศักราช 2550
ขอขอบคุณที่ติดตาม
